technique http://technique.siam2web.com/

เริ่มด้วย Tips หลักๆ ทั้ง 25 ข้อก่อนเลยล่ะกัน

 

1. Use Targeted Keyword in Ads : ให้ทำการใส่ keywords ลงไปในหัวข้อ หรือ ข้อความโฆษณาของเราด้วยครับ มันจะส่งผลต่อการที่โฆษณาของเราจะไปติดใน google ด้วย
โดย เทคนิคนี้ผมของยกตัวอย่างเช่น เว็บ sanook ละกันครับ ปกติเราจะต้องเขียนหัวข้อก่อนแล้วค่อยมาใส่ keywords แต่เราลองเปลี่ยนจากคิด keywords ก่อนแล้วค่อยเขียนหัวข้อดูครับ
เช่น keywords คือ "รายได้เสริม" เราก็อาจจะเขียนหัวข้อว่า "รายได้เสริมมาแรงแห่งยุค ทำงานผ่าน internet 100%" ประมาณนี้ครับ แล้วก็อย่าลืมว่าในข้อความเนื้อหา ก็ใส่คำ keywords ลงไปด้วยครับ

2. Use Questions for Curiosity : แปลตรงตัวครับ ให้ใช้คำถามที่ทำให้อยากรู้ เช่น "พวกคุณมั่นใจแล้วหรือกับธุรกิจGDI?" (คุ้นๆไหมอันนี้ อิอิ) "อยากทำ GDI แต่ไม่รู้ทำไง?" หรือ "ทำ GDI ยังไงให้ได้เงิน?" เป้นต้นครับ

3. Offer Instruction : เป็นการเขียนคำโฆษณาในเชิงคำสั่งหรือชี้นำครับ เช่น "ขั้นตอนง่ายๆในการทำเงิน 100$ ใน 7วัน" หรือ "บทสรุปการทำเงิน 5หมื่นบาท/เดือน ใน 1 ปี"

4. Sell Benefits : อันนี้เป็นการเขียนถึงประโยชน์ครับ ก็คือขายประโยชน์ของตัวธุรกิจเรา ว่าประโยชน์ของมันมีอะไรบ้าง ลองนึกกันดูครับ ผมว่าเพื่อนๆทุกคนนึกออกแน่นอน หุหุ

5. Tell A Story : เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเราเองครับ เขียนถึงประสบการณ์ของเราโดยตรงเลย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือครับ เช่น "ผมทำได้ 100$ ใน 7วัน !!" เป้นต้น
อ่อ แล้วที่สำคัญครับ ขอให้เป็นความจริงนะครับ ถ้าไม่จริงนี่ไม่แนะนำครับ เพราะนอกจากจะเป็นการโกหกแล้ว ยังทำให้ความน่าเืชือถือของเราลดลงด้วยครับ

6. Divulge Information : เป็นการเขียนในเชิงที่ว่า สิ่งนี้เรารู้เพียงคนเดียวเท่านั้น อยากรู้ไหม อะไรประมาณนี้น่ะครับ มันจะทำให้คนอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น (แต่ทีมงานเรา ไม่ค่อยมีอะไรปิดบังแหะ อิอิ)

7. Claim Unbelievable Stuff : เป็นการเขียนในเชิงเกินจริงครับ ประมาณว่าโอเว่อร์ไว้ก่อนอะไรแบบนั้น มันจะช่วยเพิ่มจำนวนคลิ๊กได้ครับ แต่... ข้อเสียคือ เราจะหาคำตอบให้กับผู้สนใจได้รึป่าว เท่านั้นเองครับ หุหุ

8. The “Free” Word : อ่าาา อันนี้แน่นอนครับคำนิยามที่ว่า "คนไทยชอบของฟรี" ยังใช้ได้ดีเสมอครับ โหะๆ อันนี้เป็นการเขียนโดยใส่คำว่า "ฟรี" เข้าไปในข้อความเลยครับ เช่น "เริ่มต้นวันนี้ ฟรี!!"

9. Trust : เป็นการเขียนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยยกอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงขึ้นมาครับ อาจจะเขียนประมาณว่า "เค้าคนนั้น แนะนำมา" หรือ "เค้าคนนั้น บอกว่าดี"

10. Compare Words : เป็นการเขียนคำโฆษณาในเชิงเปรียบเทียบ เพื่อดึงความสนใจ เช่น "GDI vs TVI" (ทำไมต้อง TVI ฟร่ะ ฮ่าฮ่า)

11. The Three Dots : เป็นการเขียน ... ต่อท้ายหัวข้อ เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้อความยังไม่หมด ทำให้รู้สึกน่าติดตามมากขึ้น อาจจะใช้การ เล่าเรื่องผสมผสานกันไปครับ

12. Power of “Secret” Word : เป็นการใช้ประโยชน์จากคำว่า Secret หรือ เคล็ดลับ คล้ายๆกรณีของคำว่า ฟรี นั่นล่ะครับ เพื่อดึงดูดความสนใจ ว่าเรามี อุ๊บ!! นะจะบอกให้

13. Include “You Need To” Word : เหมือนกันครับ ใช้ประโยชน์จากคำว่า You Need To หรือ คุณต้องการ ... ก็ว่าไป อย่างเช่น "คุณต้องการมีอิสระภาพทางการเงินใช่หรือไม่?"

14. Keyword in Different Order : เป็นการทดลองสลับคำหรือเล่นคำดูครับ เช่น "GDI สุดยอดธุรกิจออนไลน์ อันดับหนึ่งบนโลก Internet" เป็น "อันดับหนึ่งบนโลก Internet สุดยอดธุรกิจออนไลน์ GDI"

15. Capitalization : เป็นการใช้ตัวอักษรเล็ก ใหญ่ ในคำที่เหมาะสม (เหมาะสำหรับพวกคำภาษาอังกฤษ) เช่น How to หรือ 100$ in 7 Days!

16. Stay away “Buy” Word : ในหัวข้อนี้เค้าจะให้หลีกเลี่ยงคำว่า Buy หรือคำว่า ซื้อนั่นล่ะครับ แต่เราเอามาประยุกต์ใช้เป็นของเรา เพราะ คนไทยชอบของฟรีครับ โหะๆ
เช่น คำจำพวก ต้องจ่ายเท่านั้น หรือ ลงทุนเท่านี้ คำพวกนี้เหล่านักท่องเน็ตจะไม่ค่อยชอบ แล้วเมินซะส่วนใหญ่

17. Power of “How to” Word : เหมือนๆกับข้างบนครับ ใช้ประโยชน์จากคำว่า How to หรือ เรารู้ เราสอนคุณได้ ให้มากที่สุด

18. Time, Time, Time : เป็นการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาครับ เช่น วันนี้! เดี๋ยวนี้! หรือ เริ่มต้นวันนี้ ฟรี! สมัครเดี๋ยวนี้ รับฟรี! เป้นต้น

19. Remove Common Words : พยายามกำจัดคำที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปครับ บางอย่างบางคำ เราอาจจะตัดให้พออ่านง่ายพอครับ ไม่ต้องรวบมาหมด

20. Think as a Google Searcher : อันนี้สำคัญครับ เป็นการนึกถึงคนที่กำลังค้นหาครับ ว่าเค้าต้องการแบบไหนอย่างไร เอาตัวเราเป็นตัวเริ่มต้นก็ได้ครับ ว่าเราคิดอะไรเวลาเข้าเว็บนี้ หรือ กำลังคิดอะไรเวลาค้นหาคำนี้

21. Call to Action : อ่าาา อันนี้พื้นฐานเลยครับ เพื่อนๆอาจเคยเห็นเทคนิคนี้กันมาบ้างครับ เป็นการใช้คำที่เรียกให้คลิ๊กนั่นเอง เช่น คลิ๊กที่นี่ เป้นต้นครับ จะได้ผลดี ถ้าเอาไปใส่ในข้อความบรรทัดที่ 3 หรือ เกือบสุดท้ายครับ

22. Include Company Name in Your Ads : อันนี้เค้าแนะนำประมาณว่า ให้ใส่ชื่อบริษัทที่มีชื่อเสียงใน บรรทัดแรกเลย โหะๆ GDI เราดังอยู่แล้วครับ ใส่ได้เลย หรือเราอาจจะเปลี่ยนเป็น ใส่ชื่อทีมก็ได้ครับ 21Millionaire ไปเลยก็ได้

23. Friendly Competition : ใช้วิธีสอบถาม เพื่อน พ่อแม่ ญาติ พี่น้อง ครับ ว่าเค้าคิดอะไรกับธุรกิจที่เราทำอยู่ เผื่อว่าเราจะได้ปิ๊งไอเดีย คิดคำดีๆออกมาบ้าง

24. Copy The Best : อันนี้ดูเหมือนขี้โกงครับ แต่สามารถทำได้ครับไม่น่าเกลียด หุหุ มันคือการหาคำที่เด่นๆ หรือเป็นที่น่าสนใจ เราอาจแวะเข้าไปในเว็บๆ หนึ่งแล้วกวาดสายตาดูครับ อันไหนที่มันสะดุดตาเรา
หรือ เราอ่านแล้วโดนมักๆ ก็คัดลอกมาเลยครับ อาจจะทั้งดุ้น หรือว่า เอามานิดๆหน่อยๆ ก็ได้ครับ แล้วก็มาปรับให้เป็นของเราซะ

25. Tiny Change : เป็นขั้นตอนการปรับปรุงครับ ให้เรามาทบทวนคำแต่ละอย่างที่เราเคยโพสไปหรือใส่ไป ว่ามันเป็นยังไงบ้าง ลองโพสหลายๆ แบบแล้วเปรียบเทียบกันดู
แล้วก็ค่อยๆ ปรับทีละเล็ก ละน้อยครับ


สรุปแบบคร่าวๆ

เบื้อง ต้นเราก็เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานครับ ว่าเวลาเราเข้าเว็บนี้ หรือ ค้นหาคำนี้ เรากำลังคิดอะไรอยู่ มันก็จะเกิดไอเดียขึ้นมาได้บ้างครับ
แล้ว ที่สำคัญ คนเล่นเนตส่วนใหญ่ จะไม่มานั่งอ่านทั้งหมดหรอกครับ เค้าจะอาศัยการกวาดสายตาดู ทั่วๆ เพราะฉนั้นเราจึงต้องใช้คำที่ดูเด่น และอ่านง่ายไว้ก่อน
เพื่อเป็นการดึงดูดสายตา ให้เค้าคลิกเข้ามา

ข้อ ความหรือเนื้อความ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่อะไร หรือ อธิบายมากมายหรอกครับ เราเน้นที่ว่า ข้อความของเรานั้น เชื่อมโยงกับหน้า landing page(หน้าเว็บโปรโมทของเรา)
ได้มากน้อยขนาดไหน พยายามให้อ่านข้อความของเรา แล้วพอคลิ๊กมายังหน้าโปรโมท ก็ทำให้ไม่เกิดอาการ ขัดแย้ง กันให้มากที่สุด พยายามให้มันลื่นไหลนิดนึงครับ

 

 


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 7,112 Today: 2 PageView/Month: 4

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...